หัวข้อ   “ ดัชนีความเชื่อมั่นนักเศรษฐศาสตร์ต่อเศรษฐกิจไทยใน 3-6 เดือนข้างหน้า ”
 
นักเศรษฐศาสตร์เชื่อมั่น เศรษฐกิจไทยใน 3-6 เดือนข้างหน้าจะสดใสขึ้นอีก
ดีมาก (5)
ดี (4)
ปานกลาง (3)
พอใช้ (2)
แย่ (1)
 
 
 
                 ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (กรุงเทพโพลล์) เปิดเผยผลสำรวจความเห็น
นักเศรษฐศาสตร์จากองค์กรชั้นนำ 26 แห่ง จำนวน 60 คน เรื่อง “ดัชนีความเชื่อมั่นนัก
เศรษฐศาสตร์ต่อเศรษฐกิจไทยใน 3-6 เดือนข้างหน้า
” โดยเก็บข้อมูลระหว่างวันที่
20 – 25 เม.ย. ที่ผ่านมา พบว่า
 
                 ดัชนีความเชื่อมั่นนักเศรษฐศาสตร์ต่อสถานะเศรษฐกิจไทยในปัจจุบัน
อยู่ที่ระดับ 47.31
  ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำกว่า 50 หมายความว่า นักเศรษฐศาสตร์เชื่อมั่น
ว่าเศรษฐกิจไทยในปัจจุบันอยู่ในสถานะอ่อนแอ
  อย่างไรก็ตาม เมื่อเปรียบเทียบกับ
การสำรวจในช่วงไตรมาสที่ 1 ของปี 2555  พบว่าสถานะทางเศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้น โดย
เพิ่มขึ้น 18.90 จุดและเป็นการปรับขึ้นในทุกปัจจัยขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจ   โดยเฉพาะ
ปัจจัยการท่องเที่ยวจากต่างประเทศและปัจจัยการลงทุนภาคเอกชนที่ได้รับผลดีจากการ
เข้าสู่ช่วง high season  ของการท่องเที่ยวและการลงทุนของภาคเอกชนเพื่อการฟื้นฟู
กิจการหลังน้ำท่วมใหญ่ ตามลำดับ
 
                 สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นนักเศรษฐศาสตร์ต่อเศรษฐกิจไทยในอีก 3 เดือนข้างหน้า พบว่าค่าดัชนีความเชื่อมั่นฯ
อยู่ในระดับ 62.44 และเมื่อมองออกไปในอีก 6 เดือนข้างหน้า ค่าดัชนีความเชื่อมั่นฯ ก็ยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 68.24
ซึ่งค่าดัชนีฯ ที่ระดับดังกล่าวอยู่ในระดับที่สูงกว่า 50 หมายความว่า   นักเศรษฐศาสตร์มีความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจไทย
ในอีก 3-6 เดือนข้างหน้าจะปรับตัวดีขึ้น
เมื่อเปรียบเทียบกับปัจจุบัน โดยปัจจัยในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญ
ใน 3-6 เดือนข้างหน้าคือ การใช้จ่ายและการลงทุนภาครัฐ การส่งออกสินค้า และการท่องเที่ยวจากต่างประเทศ
ขณะที่ปัจจัยการบริโภคภาคเอกชนเป็นปัจจัยที่มีบทบาทต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจน้อยที่สุดเมื่อเทียบกับปัจจัยอื่นๆ
 
                 โปรดพิจารณารายละเอียดของผลสำรวจดังต่อไปนี้
 
            ภาพที่ 1 ดัชนีความเชื่อมั่นนักเศรษฐศาสตร์ต่อสถานะเศรษฐกิจไทยในปัจจุบัน (จำแนกตามดัชนี)
 
             1. ดัชนีความเชื่อมั่นนักเศรษฐศาสตร์ต่อสถานะเศรษฐกิจไทยในปัจจุบัน

ปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
ดัชนีความเชื่อมั่นนักเศรษฐศาสตร์ต่อสถานะเศรษฐกิจไทยในปัจจุบัน
2553
2554
2555
เปลี่ยน
แปลง
ก.ค.
ต.ค.
ม.ค.
เม.ย.
ก.ค.
ต.ค.
ม.ค.
เม.ย.
1) การบริโภคภาคเอกชน
39.13
50.00
56.02
50.00
52.46
46.77
32.39
48.31
+ 15.92
2) การลงทุนภาคเอกชน
24.26
45.21
49.39
45.59
50.82
48.36
20.71
44.07
+ 23.36
3) การใช้จ่ายและการลงทุน
    ภาครัฐ
58.09
56.16
58.02
55.71
52.59
54.03
45.71
57.14
+ 11.43
4) การส่งออกสินค้า
76.09
69.59
65.24
69.29
69.17
66.39
20.00
36.21
+ 16.21
5) การท่องเที่ยวจากต่าง
    ประเทศ
13.24
46.53
53.09
53.52
59.68
54.03
23.24
50.85
+ 27.61
ดัชนีรวม
42.16
53.50
56.35
54.82
56.94
53.92
28.41
47.31
+ 18.90
หมายเหตุ : ค่าดัชนีจะมีค่าอยู่ระหว่าง 0-100 โดย
  ค่าดัชนีเท่ากับ 50 หมายถึง นักเศรษฐศาสตร์มีความเชื่อมั่นว่าปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจอยู่ใน
สถานะปกติ (สำหรับสถานะปัจจุบัน) หรือหมายถึง นักเศรษฐศาสตร์มีความเชื่อมั่นอยู่ในระดับ
เดิม/ไม่เปลี่ยนแปลง (สำหรับการคาดการณ์ในอีก 3 และ 6 เดือนข้างหน้าเทียบกับปัจจุบัน)
  ค่าดัชนีสูงกว่า 50 หมายถึง นักเศรษฐศาสตร์มีความเชื่อมั่นว่าปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจอยู่ใน
สถานะแข็งแกร่ง (สำหรับสถานะปัจจุบัน) หรือหมายถึง นักเศรษฐศาสตร์มีความเชื่อมั่นอยู่ใน
ระดับ ดีขึ้น (สำหรับการคาดการณ์ในอีก 3 และ 6 เดือนข้างหน้าเทียบกับปัจจุบัน)
  ค่าดัชนีต่ำกว่า 50 หมายถึง นักเศรษฐศาสตร์มีความเชื่อมั่นว่าปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจอยู่ใน
สถานะอ่อนแอ (สำหรับสถานะปัจจุบัน) หรือหมายถึง นักเศรษฐศาสตร์มีความเชื่อมั่นอยู่ในระดับ
แย่ลง (สำหรับการคาดการณ์ในอีก 3 และ 6 เดือนข้างหน้าเทียบกับปัจจุบัน)
 
 
             2. ดัชนีความเชื่อมั่นนักเศรษฐศาสตร์ต่อเศรษฐกิจไทยใน 3 เดือนข้างหน้า (เปรียบเทียบกับปัจจุบัน)

ปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
ดัชนีคาดการณ์เศรษฐกิจ
ในอีก 3 เดือนข้างหน้าเปรียบเทียบกับปัจจุบัน
2553
2554
2555
ก.ค.
ต.ค.
ม.ค.
เม.ย.
ก.ค.
ต.ค.
ม.ค.
เม.ย.
1) การบริโภคภาคเอกชน
79.29
64.19
53.61
50.71
66.07
45.08
62.14
56.03
2) การลงทุนภาคเอกชน
71.01
67.81
62.20
55.15
57.41
42.24
69.57
58.62
3) การใช้จ่ายและการลงทุน
    ภาครัฐ
65.22
55.48
63.58
59.29
70.69
71.19
71.64
75.00
4) การส่งออกสินค้า
63.57
28.38
47.56
48.57
49.12
31.36
54.41
65.79
5) การท่องเที่ยวจากต่าง
    ประเทศ
81.88
67.36
63.58
39.44
67.24
47.41
59.29
56.78
ดัชนีรวม
72.19
56.64
58.11
50.63
62.11
47.46
63.41
62.44
 
 
             3. ดัชนีความเชื่อมั่นนักเศรษฐศาสตร์ต่อเศรษฐกิจไทยใน 6 เดือนข้างหน้า (เปรียบเทียบกับปัจจุบัน)

ปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
2554
2555
ต.ค.
ม.ค.
เม.ย.
1) การบริโภคภาคเอกชน
48.25
68.84
62.28
2) การลงทุนภาคเอกชน
44.07
81.82
67.31
3) การใช้จ่ายและการลงทุนภาครัฐ
70.00
75.00
75.93
4) การส่งออกสินค้า
25.44
62.12
67.59
5) การท่องเที่ยวจากต่างประเทศ
37.96
73.19
68.10
ดัชนีรวม
45.14
72.19
68.24
 
 
             4. ปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจใน 3-6 เดือนข้างหน้า

 
3 เดือนข้างหน้า
6 เดือนข้างหน้า
ปัจจัยขับเคลื่อนที่เชื่อมั่นว่า
จะดีขึ้น
เมื่อเที่ยบกับปัจจุบัน
การใช้จ่ายและการลงทุนภาครัฐ
การส่งออกสินค้า
การลงทุนภาคเอกชน
การท่องเที่ยวจากต่างประเทศ
การบริโภคภาคเอกชน
การใช้จ่ายและการลงทุนภาครัฐ
การท่องเที่ยวจากต่างประเทศ
การส่งออกสินค้า
การลงทุนภาคเอกชน
การบริโภคภาคเอกชน
ปัจจัยขับเคลื่อนที่เชื่อมั่นว่า
จะแย่ลง
เมื่อเที่ยบกับปัจจุบัน
ไม่มี
ไม่มี
 
 

** หมายเหตุ:  รายงานผลสำรวจความเห็นนักเศรษฐศาสตร์ฉบับนี้   เป็นการสำรวจความเห็นส่วนตัวของ
                     นักเศรษฐศาสตร์ซึ่งมิได้สื่อถึงแนวนโยบายขององค์กรที่นักเศรษฐศาสตร์สังกัดอยู่แต่อย่างใด

 
 
รายละเอียดในการสำรวจ
วัตถุประสงค์:
                  1. เพื่อสำรวจความคิดเห็นนักเศรษฐศาสตร์ต่อสถานะทางเศรษฐกิจของไทยในปัจจุบันและทิศทาง
                      ในอนาคตอีก 3 และ 6 เดือนข้างหน้า
                  2. เพื่อสะท้อนข้อเสนอแนะประเด็นเศรษฐกิจของนักเศรษฐศาสตร์ไปยังรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
 
กลุ่มตัวอย่าง:

                        เป็นนักเศรษฐศาสตร์ที่สำเร็จการศึกษาทั้งระดับปริญญาตรีและปริญญาโทในสาขาเศรษฐศาสตร์
               (กรณีสำเร็จการศึกษาด้านเศรษฐศาสตร์เฉพาะปริญญาตรี หรือปริญญาโท หรือปริญญาเอก อย่างใด
               อย่างหนึ่ง จะต้องมีประสบการณ์ในการทำงานด้านวิเคราะห์/วิจัย/หรืองานที่เกี่ยวข้องที่ต้องใช้ความรู้
               ความสามารถด้านเศรษฐศาสตร์อย่างน้อย 5 ปี) ที่ทำงานอยู่ในหน่วยงานด้านการวิเคราะห์ วิจัยเศรษฐกิจ
               ระดับชั้นนำของประเทศ จำนวน 26 แห่ง ได้แก่ ธนาคารแห่งประเทศไทย   สำนักงานคณะกรรมการพัฒนา
               การเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ   สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง   สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม
               สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร   สำนักดัชนีเศรษฐกิจการค้ากระทรวงพาณิชย์   สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนา
               ประเทศไทย(TDRI)   มูลนิธิสถาบันวิจัยนโยบายเศรษฐกิจการคลัง   ศูนย์วิจัยกสิกรไทย   ตลาดหลักทรัพย์
               แห่งประเทศไทย   ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย   ธนาคารกรุงไทย   ธนาคาร
               ซีไอเอ็มบีไทย   ธนาคารทหารไทย   ธนาคารไทยพาณิชย์   บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ   บริษัทหลักทรัพย์
               เกียรตินาคิน   บริษัทหลักทรัพย์เอเชียพลัส  บริษัทหลักทรัพย์พัฒนสิน   คณะเศรษฐศาสตร์มหาวิทยาลัย
               ทักษิณ  สำนักวิชาการจัดการมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์  คณะเศรษฐศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
               คณะวิทยาการจัดการมหาวิทยาลัยขอนแก่น   คณะวิทยาการจัดการและสารสนเทศศาสตร์มหาวิทยาลัย
               นเรศวร   สำนักวิชาเศรษฐศาสตร์และนโยบายสาธารณะมหาวิทยาลัยศรีนครินทร์วิโรฒ   และอาจารย์
               คณะเศรษฐศาสตร์และนักวิจัยประจำศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ

 
วิธีเก็บรวบรวมข้อมูล:
                  รวบรวมข้อมูลโดยการส่งแบบสอบถามออนไลน์ไปยังนักเศรษฐศาสตร์ในหน่วยงานที่กำหนดภายใน
ระยะเวลาที่กำหนด
 
ระยะเวลาในการเก็บข้อมูล:  20 - 25 เมษายน 2555
 
วันที่เผยแพร่ผลสำรวจ: 26 เมษายน 2555
 
สรุปข้อมูลพื้นฐานของกลุ่มตัวอย่าง:
ตารางข้อมูลประชากรศาสตร์
 
จำนวน
ร้อยละ
ประเภทของหน่วยงานที่กลุ่มตัวอย่างทำงานอยู่:    
             หน่วยงานภาครัฐ
27
45.0
             หน่วยงานภาคเอกชน
18
30.0
             สถาบันการศึกษา
15
25.0
รวม
60
100.0
เพศ:    
             ชาย
32
53.3
             หญิง
28
46.7
รวม
60
100.0
อายุ:
 
 
             26 – 35 ปี
26
43.3
             36 – 45 ปี
16
26.7
             46 ปีขึ้นไป
18
30.0
รวม
60
100.0
การศึกษา:
 
 
             ปริญญาตรี
3
5.0
             ปริญญาโท
42
70.0
             ปริญญาเอก
15
25.0
รวม
60
100.0
ประสบการณ์ทำงาน:
 
 
             1 - 5 ปี
11
18.3
             6 - 10 ปี
18
30.0
             11 - 15 ปี
9
15.0
             16 - 20 ปี
6
10.0
             ตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป
16
26.7
รวม
60
100.0
 
ติดตามกรุงเทพโพลล์ผ่าน twitter ได้ที่  twitter bangkokpoll
Download PDF file:  
 
ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (กรุงเทพโพลล์)
Email: bangkokpoll@bu.ac.th      โทร. 0-2350-3500 ต่อ 1770-1776